0 s4MoRa7VwTm4Ubok

ขั้นตอนการติดตั้ง Laragon

  1. ดาวน์โหลด Laragon

    • ไปที่เว็บไซต์ Laragon
    • ดาวน์โหลดเวอร์ชันที่คุณต้องการ เช่น Full หรือ Lite (แนะนำเวอร์ชัน Full สำหรับการเริ่มต้น)
  2. ติดตั้ง Laragon

    • เปิดไฟล์ติดตั้งที่ดาวน์โหลดมา (.exe)
    • ทำตามขั้นตอนในตัวติดตั้ง:
      1. เลือกโฟลเดอร์สำหรับติดตั้ง (ค่าปกติคือ C:\laragon)
      2. คลิก "Next" และ "Install" เพื่อเริ่มการติดตั้ง
    • เมื่อติดตั้งเสร็จ คลิก "Finish" เพื่อเปิด Laragon
  3. เริ่มใช้งาน Laragon

    • เมื่อเปิด Laragon คุณจะเห็นหน้าต่างควบคุม (Control Panel)
    • กดปุ่ม Start All เพื่อเริ่มบริการ (Apache/Nginx, MySQL, และอื่นๆ)
  4. ตรวจสอบการทำงาน

    • เปิดเบราว์เซอร์และพิมพ์ http://localhost>>
    • คุณควรเห็นหน้าเริ่มต้นของ Laragon แสดงว่าระบบทำงานได้แล้ว

การตั้งค่าเพิ่มเติม

  1. จัดการฐานข้อมูล (phpMyAdmin หรือ Adminer)

    • เข้าถึง phpMyAdmin โดยพิมพ์ http://localhost/phpmyadmin>>
    • ชื่อผู้ใช้: root (ไม่มีรหัสผ่านเริ่มต้น)
  2. เพิ่มโปรเจกต์ใหม่

    • วางไฟล์โปรเจกต์ในโฟลเดอร์ C:\laragon\www
    • ตัวอย่าง: ถ้าคุณสร้างโฟลเดอร์ my_project ไว้ใน www สามารถเข้าถึงได้ที่ http://localhost/my_project>>
  3. Quick Create สำหรับ PHP Framework

    • Laragon มีเครื่องมือสร้างโปรเจกต์ใหม่อัตโนมัติ:
      • คลิก Menu > เลือก Quick App > เลือก Framework เช่น Laravel, WordPress, หรืออื่นๆ
      • ระบบจะสร้างโปรเจกต์ให้คุณพร้อมใช้งาน
    •  
  4. การเปลี่ยนพอร์ต (ถ้าจำเป็น)

    • หากพอร์ตเริ่มต้นมีปัญหา (เช่น พอร์ต 80 ถูกใช้งานแล้ว):
      • คลิก Menu > Preferences > Services & Ports
      • เปลี่ยนพอร์ตที่ต้องการสำหรับ Apache/Nginx
    •  

ข้อดีของ Laragon

  • ใช้งานง่าย: Laragon ออกแบบให้เหมาะกับผู้เริ่มต้น
  • เบาและเร็ว: ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าซอฟต์แวร์จำลอง Server อื่นๆ
  • รองรับหลายภาษา: ไม่เพียงแต่ PHP แต่ยังรองรับ Node.js, Python, Ruby ฯลฯ
  • Auto Virtual Host: ไม่ต้องตั้งค่า Virtual Host เอง เพียงเพิ่มโปรเจกต์ในโฟลเดอร์ www

เคล็ดลับ

  • สำรองฐานข้อมูล: หากคุณใช้ MySQL ในโปรเจกต์จริง ควรสำรองข้อมูลเป็นประจำ
  • เรียนรู้ Framework: ทดลองใช้ Laragon คู่กับ PHP Framework เช่น Laravel เพื่อพัฒนาทักษะ