ขั้นตอนการติดตั้ง Laragon
- ดาวน์โหลด Laragon
- ไปที่เว็บไซต์ Laragon
- ดาวน์โหลดเวอร์ชันที่คุณต้องการ เช่น Full หรือ Lite (แนะนำเวอร์ชัน Full สำหรับการเริ่มต้น)
- ติดตั้ง Laragon
- เปิดไฟล์ติดตั้งที่ดาวน์โหลดมา (.exe)
- ทำตามขั้นตอนในตัวติดตั้ง:
- เลือกโฟลเดอร์สำหรับติดตั้ง (ค่าปกติคือ C:\laragon)
- คลิก "Next" และ "Install" เพื่อเริ่มการติดตั้ง
- เมื่อติดตั้งเสร็จ คลิก "Finish" เพื่อเปิด Laragon
- เริ่มใช้งาน Laragon
- เมื่อเปิด Laragon คุณจะเห็นหน้าต่างควบคุม (Control Panel)
- กดปุ่ม Start All เพื่อเริ่มบริการ (Apache/Nginx, MySQL, และอื่นๆ)
- ตรวจสอบการทำงาน
- เปิดเบราว์เซอร์และพิมพ์ http://localhost>>
- คุณควรเห็นหน้าเริ่มต้นของ Laragon แสดงว่าระบบทำงานได้แล้ว
การตั้งค่าเพิ่มเติม
- จัดการฐานข้อมูล (phpMyAdmin หรือ Adminer)
- เข้าถึง phpMyAdmin โดยพิมพ์ http://localhost/phpmyadmin>>
- ชื่อผู้ใช้: root (ไม่มีรหัสผ่านเริ่มต้น)
- เพิ่มโปรเจกต์ใหม่
- วางไฟล์โปรเจกต์ในโฟลเดอร์ C:\laragon\www
- ตัวอย่าง: ถ้าคุณสร้างโฟลเดอร์ my_project ไว้ใน www สามารถเข้าถึงได้ที่ http://localhost/my_project>>
- Quick Create สำหรับ PHP Framework
- Laragon มีเครื่องมือสร้างโปรเจกต์ใหม่อัตโนมัติ:
- คลิก Menu > เลือก Quick App > เลือก Framework เช่น Laravel, WordPress, หรืออื่นๆ
- ระบบจะสร้างโปรเจกต์ให้คุณพร้อมใช้งาน
- Laragon มีเครื่องมือสร้างโปรเจกต์ใหม่อัตโนมัติ:
- การเปลี่ยนพอร์ต (ถ้าจำเป็น)
- หากพอร์ตเริ่มต้นมีปัญหา (เช่น พอร์ต 80 ถูกใช้งานแล้ว):
- คลิก Menu > Preferences > Services & Ports
- เปลี่ยนพอร์ตที่ต้องการสำหรับ Apache/Nginx
- หากพอร์ตเริ่มต้นมีปัญหา (เช่น พอร์ต 80 ถูกใช้งานแล้ว):
ข้อดีของ Laragon
- ใช้งานง่าย: Laragon ออกแบบให้เหมาะกับผู้เริ่มต้น
- เบาและเร็ว: ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าซอฟต์แวร์จำลอง Server อื่นๆ
- รองรับหลายภาษา: ไม่เพียงแต่ PHP แต่ยังรองรับ Node.js, Python, Ruby ฯลฯ
- Auto Virtual Host: ไม่ต้องตั้งค่า Virtual Host เอง เพียงเพิ่มโปรเจกต์ในโฟลเดอร์ www
เคล็ดลับ
- สำรองฐานข้อมูล: หากคุณใช้ MySQL ในโปรเจกต์จริง ควรสำรองข้อมูลเป็นประจำ
- เรียนรู้ Framework: ทดลองใช้ Laragon คู่กับ PHP Framework เช่น Laravel เพื่อพัฒนาทักษะ